วันเสาร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2561

เครื่องดื่มสมุนไพรอย่างน้ำเก๊กฮวยช่วยดับกระหาย


เก๊กฮวย

อากาศร้อนๆ แบบนี้ถ้าได้เครื่องดื่มหวานๆ เย็นๆ สักแก้วคงดี แต่ถ้าอยากจะได้สุขภาพดีด้วย ดับกระหายด้วยก็ไม่ควรเลือกดื่มน้ำอัดลมหรือน้ำหวาน ลองมองหา “เก๊กฮวย” เย็นๆ สักแก้วมาช่วยดับกระหาย รับรองว่าได้ทั้งความสดชื่นและได้สุขภาพดีตามไปด้วย เพราะขอบอกเลยว่าเก็กฮวยไม่ได้ช่วยแค่แก้ร้อนใน ดับกระหายเท่านั้น แต่สรรพคุณและประโยชน์ของเก๊กฮวย ยังเป็นสมุนไพรบำรุงหัวใจ ฟื้นฟูร่างกายได้ดีมากๆ เชียว…


แหล่งกำเนิดและลักษณะของ "ดอกเก๊กฮวย"

"เก๊กฮวย" (Chrysanthemum) มีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศจีน และญี่ปุ่น ต่อมามีการขยายการเพาะปลูกในประเทศไทย ลาว และกัมพูชา ส่วนที่นำมาต้มน้ำเก็กฮวยคือ “ดอก” ซึ่งมีทั้งชนิดดอกสีขาว และดอกสีเหลือง ส่วนใหญ่ที่หาซื้อกันโดยทั่วไปจะเป็นดอกเก็กฮวยสวนที่มีราคาไม่สูงมาก ส่วนดอกเก็กฮวยป่า จะมีความหอมหวานมากกว่า และมีราคาสูงกว่าเล็กน้อย เก๊กฮวยจัดว่าเป็นสมุนไพรฤทธิ์เย็น ให้ความสดชื่นแก่ร่างกายได้ดี มีรสหวานฝาด ดอกมีกลิ่นฉุนแต่พอนำมาต้มน้ำแล้วจะมีกลิ่นหอมมากเพราะในดอกของเก็กฮวยมีน้ำมันหอมอยู่มาก สามารถนำมาสกัดเป็นน้ำมันหอมระเหยได้

สรรพคุณของน้ำเก๊กฮวย..ดื่มง่าย ระบายท้อง

เก๊กฮวยอุดมไปด้วยสารฟลาโวนอยด์ (Flavonoids) ซึ่งเป็นสารที่มีคุณสมบัติต่อต้านอนุมูลอิสระ ละลายได้ดีในน้ำ ดังนั้นการดื่มน้ำเก็กฮวยนอกจากจะสดชื่น ช่วยดับกระหายแล้ว ยังได้รับสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยยับยั้งเซลล์มะเร็ง และช่วยชะลอวัย ทำให้ผิวพรรณสดใสอีกด้วย นอกจากนี้เก็กฮวยยังมีคุณสมบัติเด่นในเรื่องของการขับสารพิษในร่างกาย และยังเป็นยาระบายอ่อนๆ ช่วยขับลม ช่วยให้รู้สึกสดชื่น สบายท้อง อีกทั้งในเก็กฮวยยังมีสารโคลีน ที่ช่วยให้ร่างกายสร้างเลซิติน ที่ช่วยลดไขมัน ลดคอเลสเตอรอลได้ การดื่มน้ำเก็กฮวยที่ไม่ใส่น้ำตาลมากไปจึงไม่ทำให้อ้วน แต่ช่วยเผาผลาญไขมันได้ดี

วันศุกร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2561

เนื้อวัว มีประโยชน์อะไรบ้าง..มาดูกัน


ประโยชน์

เนื้อวัว จัดว่าเป็นแหล่งของสารอาหารโปรตีนที่มีคุณภาพดีของคนไทยมาเป็นเวลาช้านาน โปรตีนในเนื้อวัวเป็นโปรตีนที่มีค่าทางชีวภาพสูง (high biological value) เนื่องจากมีกรดอะมิโนจำเป็นครบถ้วนสำหรับมนุษย์เพื่อให้ร่างกายเจริญเติบโตอย่างเป็นปกติและมีการพัฒนา ของสมองอย่างสมบูรณ์ นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งของสารอาหารรอง (micronutrients) ได้แก่ วิตามินเอ, วิตามินบี 6, วิตามินบี 12, วิตามินดี, วิตามินอี, ธาตุเหล็ก1 โดยเฉพาะวิตามินบี 12 มักจะพบในปริมาณน้อยในอาหารชนิดอื่น


คุณค่าทางโภชนาการของเนื้อวัว

👉โปรตีน👈

โปรตีนในเนื้อวัวส่วนใหญ่มาจากกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน2 เนื้อวัวดิบมีปริมาณโปรตีน 20.3 กรัมต่อ 100 กรัมของส่วนที่บริโภคได้ โดยปริมาณนี้อาจแปรผันได้ในเนื้อวัวสายพันธุ์ต่างๆ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสัดส่วนของปริมาณไขมันในเนื้อวัวแต่ละสายพันธุ์ ค่าสารอาหารโปรตีนที่แนะนำให้บริโภคประจำวันสำหรับคนไทยอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไป (Thai Recommended Daily Intakes– Thai RDI) มีค่าเท่ากับ 50 กรัม โดยคิดจากความต้องการพลังงานวันละ 2,000 กิโลแคลอรี3 จึงนับได้ว่าเนื้อวัวให้ปริมาณโปรตีนแก่มนุษย์ได้ค่อนข้างสูง นอกจากนี้เนื้อวัวยังมีกรดอะมิโนจำเป็นครบถ้วนตามความต้องการของร่างกายมนุษย์ กรดอะมิโนจำเป็นหมายถึงกรดอะมิโนทั้ง 8 ชนิด ที่ร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์ขึ้นมาเองได้ ได้แก่ isoleucine, leucine, lysine, methionine, phenylalanine, threonine, tryptophan, และ valine โปรตีนในเนื้อวัวมีประโยชน์ต่อการสร้างเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อในนักกีฬาหรือผู้ป่วยหลังการผ่าตัด เนื้อวัวเป็นแหล่งสำคัญของโปรตีนที่มีฤทธิ์ทางชีวภาพ (biological activity) สูงถึงร้อยละ 28.7 ของค่าเฉลี่ยทั่วไปของอาหาร4 โดยปกติแล้วสัดส่วนของปริมาณโปรตีนในเนื้อที่มาจากชิ้นส่วนที่แตกต่างกันและมีปริมาณไขมันที่แตกต่าง กันย่อมแตกต่างกัน

👉คาร์โบไฮเดรต👈

คาร์โบไฮเดรตมีอยู่ในเนื้อสัตว์เพียงร้อยละ 1 หรือต่ำกว่านี้ 6 ส่วนใหญ่อยู่ในรูปของไกลโคเจนและกรดแลกติก ซึ่งไกลโคเจนสะสมอยู่ในตับเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นเนื้อสัตว์จึงมีปริมาณไกลโคเจนต่ำมาก21

👉แร่ธาตุ👈

เนื้อวัวประกอบไปด้วยแร่ธาตุที่มีประโยชน์ ได้แก่ เหล็ก, ฟอสฟอรัส, สังกะสี, ซีลีเนียม และ แมกนี

👉ไขมัน👈

ไขมันในเนื้อวัวจัดว่ามีความผันแปรมากที่สุด ขึ้นอยู่กับว่าเป็นชิ้นส่วนใดของซาก นอกจากนี้ยังขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันที่ห่อหุ้มหรือปะปนอยู่ในเนื้อว่ามีมากน้อยเพียงใด กองโภชนาการ2 รายงานว่าเนื้อวัวส่วนสันในมีปริมาณไขมัน ร้อยละ 3.26 เช่นเดียวกับโปรตีนที่ปริมาณนี้อาจแปรปรวนได้ในเนื้อวัวสายพันธุ์ต่างๆ อย่างเช่น เนื้อวัวพันธุ์ต่างประเทศมีปริมาณไขมันร้อยละ 2.504
กรดไขมันในเนื้อวัวส่วนใหญ่เป็นกรดไขมันประเภทอิ่มตัว โดยเฉพาะกรดปาล์มิติกและกรดสเตียริก ส่วนกรดไขมันประเภทไม่อิ่มตัวที่มีอยู่ในปริมาณสูง คือ กรดโอลิอิก ไขมันสัตว์มีคอเลสเตอรอลเป็นส่วนประกอบอยู่ในปริมาณที่ค่อนข้างสูงและมีปริมาณแปรปรวนขึ้นกับ สายพันธุ์ของโค ถ้าเป็นเนื้อวัวส่วนสันในจะมีสัดส่วนของกรดไขมันไม่อิ่มตัวตำแหน่งเดียวสูง (monounsaturated fatty acid, MUFA) กว่ากรดไขมันอิ่มตัว (saturated fatty acid, SFA) และกรดไขมันไม่อิ่มตัวหลายตำแหน่ง (polyusaturated fatty acid, PUFA)

วันอังคารที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2561

ดอกอัญชันเป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณ...น่าทึ่งมาก


สมุนไพร

ดอกอัญชัน ดอกไม้สีม่วงที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสมุนไพรที่มีประโยชน์อย่างมาก หลายคนคงจะเคยได้ยินสรรพคุณของเจ้าดอกอัญชันกันมาบ้างแล้ว ที่เห็นกันชัดเจนก็คงจะเป็นการนำอัญชันมาถูคิ้วเด็กเล็กๆ เพราะมีความเชื่อว่าจะทำให้คิ้วดกดำขึ้น หรือแม้แต่คุณประโยชน์ในการนำสีของดอกอัญชันมาใช้ในการทำอาหารหรือขนมต่างๆ แต่รู้หรือไม่ว่าที่จริงแล้วดอกอัญชันมีประโยชน์อีกมากมายหลายอย่างเลยล่ะค่ะ อยากรู้แล้วใช่ไหมล่ะว่า เจ้าดอกเล็กๆ สีม่วงนี้มีประโยชน์อย่างไรบ้าง ไปดูกันเลย
ดอกอัญชันมีคุณสมบัติในการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ โดยในดอกอัญชันนั้นมีสารตัวหนึ่งที่ชื่อว่าแอนโทไซยานิน (Anthocyanin) ซึ่งสารชนิดนี้สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของดวงตา เพิ่มความสามารถในการมองเห็น แก้อาการตาฟาง ตามัว หรือภาวะการเสื่อมของดวงตาที่มาจากโรคเบาหวาน โรคต้อหิน โรคต้อกระจก และมีหน้าที่ไปช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต ทำให้เลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ได้ดีมากขึ้น แถมยังมีฤทธิ์ต้านการออกซิเดชั่นของไขมัน ชะลอการเกิดโรคที่เกิดจากคอเลสเตอรอลชนิดที่ไม่ดี (LDL) อุดตันในหลอดเลือด และโรคหลอดเลือดหัวใจแข็งตัวอีกด้วย และคุณสมบัติที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ ดอกอัญชันนั้นยังช่วยยับยั้งการรวมตัวของเกล็ดเลือด ช่วยขับปัสสาวะ และช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ แต่ใช่ว่าดอกอัญชันจะมีสรรพคุณเพียงเท่านี้ ไปดูกันต่อเลยว่าสรรพคุณที่เหลือมีอะไรกันบ้างค่ะ


รากอัญชัน
- แก้อาการปวดฟัน และทำให้ฟันแข็งแรง โดยการนำรากมาถูที่ฟัน
- ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการมองเห็นให้ดียิ่งขึ้น โดยนำรากไปถูกับน้ำฝน แล้วนำมาที่หยอดตาและหู


ใบอัญชัน
- ช่วยขับปัสสาวะ
- ช่วยบำรุงสายตาและอาการตาแฉะได้


ดอกอัญชัน
- ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้ร่างกายและเพิ่มพลังทำให้ร่างกายมีแรงขึ้น
- สารต้านอนุมูลอิสระในดอกอัญชันช่วยในการชะลอวัยและริ้วรอยแห่งวัย
- ช่วยบำรุงสมอง
- ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและภาวะหลอดเลือดหัวใจอุดตัน
- ช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคมะเร็ง
- ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดในผู้ป่วยโรคเบาหวาน
- ช่วยล้างสารพิษและขับของเสียออกจากร่างกาย
- แก้อาการปัสสาวะพิการ
- แก้อาการฟกช้ำ
- ช่วยป้องกันและบรรเทาอาการเหน็บชาตามนิ้วมือนิ้วเท้า
การนำดอกสดมารับประทานเป็นเครื่องเคียงคู่กับน้ำพริกชนิดต่างๆ นำมาต้มดื่ม หรือนำไปปลูกเพื่อเป็นไม้ประดับตามรั้ว แต่ที่สำคัญที่สุดก็คงเป็นการนำมาใช้บำรุงผมให้ดกดำเงางาม และรักษาอาการผมร่วงหรือผมบางได้อีกด้วยล่ะค่ะ

วันพุธที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2561

ใบโหระพาป้องกันโรคได้จริง….

ใบโหระพาเป็นแหล่งเบต้าแคโรทีน ซึ่งมีส่วนสำคัญในการป้องกันโรค เช่น โรคหัวใจขาดเลือดและมะเร็ง โหระพา 1 ขีด มีเบต้าแคโรทีนสูง คือ 452.16 ไมโครกรัม ใบโหระพามีกลิ่นเฉพาะใช้เป็นผักสด ใช้ปรุงแต่งกลิ่นอาหารและมีธาตุแคลเซียมสูงด้วย


นอกจากจะเป็นอาหารแล้ว โหระพายังเป็นสมุนไพรด้วย เพราะมีสรรพคุณทางยาอย่างคาดไม่ถึงเลยทีเดียว
1. แก้ไข้ ปวดศรีษะ ขับเหงื่อ ขับลม ขับเสมหะ ขับพยาธิ แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ท้องเสีย ช่วยเจริญอาหาร โดยใช้ยอดอ่อนต้มกับน้ำรับประทานเป็นชาหรือรับประทานเป็นผักสด
2. ใช้เป็นยาขับปัสสาวะและยาระบายอ่อน ๆ เพื่อแก้อาการท้องผูก โดยนำเมล็ดแก่แช่น้ำให้พองตัวเต็มที่รับประทานกับขนมหวานโดยผสมกับน้ำหวานและน้ำแข็ง
3. ใช้รักษาอาการเหงือกอักเสบเป็นหนอง โดยบดใบโหระพาแห้งให้เป็นผงทาบริเวณที่เป็น
4. บรรเทาอาการคลื่นไส้อาเจียน โดยคั้นน้ำจากใบโหระพาสด ประมาณ 1ช้อนโต๊ะ ผสมน้ำอ้อย 2ช้อน รับประทานวันละ 2ครั้ง พร้อมกับน้ำอุ่น
5. แก้สะอึก โดยใช้ใบโหระพาสดหรือแห้งพร้อมขิงสดแช่ในน้ำเดือดรับประทานในขณะที่น้ำยังร้อน
6. น้ำมันโหระพาสามารถฆ่ายุงและแมลงได้
7. เมล็ดแก่แช่น้ำใช้พอกแผลบรรเทาอาการฟกช้ำ

น้ำมันโหระพา

น้ำมันโหระพา เป็นน้ำมันหอมระเหยที่พบในใบโหระพามีร้อยละ 1.5 องค์ประกอบทางเคมีที่สำคัญ คือ Methylcha vicol และสกัดได้จากใบโหระพาพันธุ์ไทย โดยการกลั่นด้วยไอน้ำ เป็นของเหลวใสสีเหลืองอ่อน หรือเหลืองอมน้ำตาลปราศจากตะกอนและสารแขวนลอย ไม่มีการแยกชั้นของน้ำ มีกลิ่นเฉพาะตัว มีคุณสมบัติแก้จุกเสียดแน่นท้อง
น้ำมันหอมระเหยช่วยการย่อยอาหารเนื้อสัตว์ ช่วยคลายการหดเกร็งของกล้ามเนื้อและช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย จึงช่วยให้สบายท้องขึ้น มีกลิ่นหอมหวาน มีคุณสมบัติช่วยให้สงบ มีสมาธิ ลดอาการซึมเศร้า ข้อควรระวังในการใช้คือ ทำให้เกิดอาการแพ้ง่าย สตรีมีครรภ์ควรหลีกเลี่ยง

การใช้เป็นยาสมุนไพร

โหระพามีสรรพคุณทางยาสมุนไพรที่หลากหลาย ใบสดของโหระพามีสรรพคุณแก้ท้องอืด เฟ้อ ขับลมจากลำไส้ ต้มดื่มแก้ลมวิงเวียน ช่วยย่อยอาหาร ใช้ตำพอกหรือประคบแก้ไขข้ออักเสบ แผลอักเสบ ต้มใบและต้นสดเข้าด้วยกัน ต้มเอาน้ำดื่ม แก้หวัด ขับเหงื่อ ถ้าเด็กปวดท้อง ใช้ใบโหระพา 20 ใบ ชงน้ำร้อนและนำมาชงนมให้เด็กดื่มแทนยาขับลมได้ ใบโหระพาแห้งต้มกับน้ำ มีสรรพคุณต้านเชื้อก่อโรค

วันจันทร์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2561

ก๋วยเตี๋ยวอร่อยได้ต้องทานคู่กับกากหมูเจียวกระเทียมกรอบ

ก๋วยเตี๋ยว เมนูโปรดของเรานั้นจะขาดไม่ได้เลยคือ กากหมูเจียวกระเทียม กรอบๆ ที่เรามักจะขอสั่งเพิ่มมากินคู่กับก๋วยเตี๋ยว ให้ได้อรรถรส และมีประโยชน์มากกว่าอาหารทอดหลายๆ ตัวอีก ลองมาดูกันนะคะว่ามีประโยชน์อย่างไร
หากทุกคนทานกากหมูเจียวกระเทียมไม่บ่อยเกินไป เน้นนะคะว่า ไม่บ่อยเกินไม่ใช่กินทุกวันนะคะ เนื่องด้วยกากหมูเจียวกระเทียมก็ไม่ได้เป็นอาหารที่เลวร้ายอะไรเพราะกากหมูเจียวกระเทียมมีคาร์โบไฮเดรตและไขมันค่อนข้างต่ำ แถมโปรตีนสูงซึ่งปริมาณโปรตีนในกากหมูเจียวกระเทียมนั้น มากกว่ามันฝรั่งทอดกรอบถึง 9 เท่า และมีปริมาณไขมันน้อยกว่ามันฝรั่งทอดกรอบด้วย ยิ่งไปกว่านั้นคือ 43% ชองไขมันในแคบหมูนั้นเป็นไขมันไม่อิ่มตัว และเป็นกรดโอเลอีกซึ่งเป็นกรดชนิดเดียวกันกับน้ำมันมะกอก และอีก 13% เป็นกรดสเตียริก ซึ่งเป็นไขมันอิ่มตัวชนิดหนึ่งที่ปลอดภัย และไม่เพิ่มระดับคอเลสเตอรอล

จะเห็นว่าข้อมูลข้างต้นที่กล่าวมา ก็เป็นความรู้ส่วนหนึ่งที่ทำให้เราสามารถเลือกกินอาหารได้มากขึ้นโดยไม่ต้องเป็นกังวล แต่ถึงกระนั้นเราก็ควรกินอาหารให้อยู่ในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่กินอะไรมากจนเกินไปและน้อยจนเกินไปเพื่อให้เกิดความสมดุลของร่างกาย แต่ถ้าพูดถึงกากหมูเจียวกระเทียมที่กินคู่กับก๋วยเตี๋ยวแล้วลงตัวสุดๆ เราของแนะนำร้านก๋วยเตี๋ยวร้านนี้เลย “โฮมก๋วยเตี๋ยวเรือ” ที่มีทั้งก๋วยเตี๋ยวที่มีรสชาติเข้มข้น อร่อย ถึงใจ และยังมีเครื่องเคียงที่เรากล่าวไป นั้นก็คือ... “กากหมูเจียวกระเทียม” บอกเลยว่าเด็ดสุดในจังหวัดอุบลราชธานี

วันศุกร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2561

ผักบุ้งไทยและผักบุ้งจีนมีความแตกต่างกันจริงหรือ...?


ผักบุ้งจีน

ผักบุ้งไทย (Ipomoea aquatic Var. aquatica)
มีดอกสีม่วง ก้านสีเขียวหรือม่วงอ่อน ใบสีเขียวเข้ม และก้านใบสีม่วง ถิ่นกำเนิดในประเทศไทย ลักษณะทั่วไปเป็นไม้ล้มลุกมีข้อโปร่งเลื้อยแผ่ไปตามพื้นหรือผิวน้ำ การขยายพันธุ์ด้วยเพาะเมล็ด ลำต้นแก่มีรากติด

ผักบุ้งไทย

คุณประโยชน์
👉ดอก ใช้เป็นยาแก้กลากเกลื้อน
👉ต้นสด ใช้ดับพิษ รักษาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก ลดอาการแพ้ อักเสบ ปวด บวม บำรุงสายตา บำรุงเลือด บำรุงกระดูกและฟัน ช่วยรักษาโรค เบาหวาน เป็นยาดับร้อน แก้ปัสสาวะเหลือง
👉ลำต้น ใช้แก้ปวดหัว อ่อนเพลีย แก้กลากเกลื้อน แก้เบาหวาน แก้ตาอักเสบ บำรุงสายตา แก้เหงือกบวม แก้ฟกช้ำ ถอนพิ
👉ใบ ใช้ถอนพิษแมลงสัตว์กัดต่อย นำใบสดตำ คั้นเอาน้ำมาดื่ม จะทำให้อาเจียน ถอนพิษยาเบื่อเมา แก้พิษของฝิ่นและสารหนู มีวิตามินเอสูง เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
👉ราก ใช้แก้ไอเรื้อรังและแก้โรคหืด ถอนพิษผิดสำแดง ใช้แก้สตรีมีตกขาวมาก เบาขัด เหงื่อออกมาก ลดอาการบวม
ทั้งนี้ ในผักบุ้งขาว 100 กรัม ให้พลังงาน 22 กิโลแคลอรี ทั้งประกอบด้วยเส้นใย 101 กรัม แคลเซียม 3 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 22 มิลลิกรัม เหล็ก 3 มิลลิกรัม วิตามินเอ 11,447 IU วิตามินบี 1 0.06 มิลลิกรัม วิตามินบี 2 0.17 มิลลิกรัม ไนอาซิน 1.3 มิลลิกรัม วิตามินซี 14 มิลลิกรัม และมีสารต้านฮีสตามีน

ผักบุ้งจีน1

ผักบุ้งจีน (Ipomoea aquatica Var. reptans)
มีใบสีเขียว ก้านสีเหลืองหรือขาว ก้านดอกและดอกสีขาว นิยมนำมาประกอบอาหารกว้างขวางกว่าผักบุ้งไทย จึงปลูกเป็นการค้าอย่างแพร่หลาย ทั้งการปลูกเพื่อบริโภคสดและการผลิตเมล็ดพันธุ์ ปัจจุบันผักบุ้งจีนได้พัฒนาเป็นพืชผักส่งออกที่มีความสำคัญ โดยส่งออกทั้งในรูปผักสดและเมล็ดพันธุ์ ตลาดสำคัญคือฮ่องกง มาเลเซีย สิงคโปร์
👉ผักบุ้งจีนเป็นพืชผักที่นิยมรับประทานกันมาก มีคุณค่าทางอาหารสูง ประกอบด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย โดยเฉพาะวิตามินเอ ซึ่งเชื่อว่าช่วยบำรุงสายตา มีปริมาณสูงถึง 9,550 หน่วยสากล ในส่วนที่รับประทานสด 100 กรัม หรือ 6,750 หน่วยสากล ในส่วนที่รับประทานเมื่อสุกแล้ว 100 กรัม ทั้งยังมีแคลเซียม ฟอสฟอรัสและวิตามินซีเป็นองค์ประกอบสำคัญด้วย
👉ผักบุ้งจีนมีถิ่นกำเนิดอยู่ในเขตร้อน พบได้ทั่วไปในแอฟริกาและเอเชียเขตร้อนจนถึงมาเลเซียและออสเตรเลีย เป็นไม้ล้มลุก ในระยะแรกของการเจริญเติบโตจะมีลำต้นตั้งตรง ระยะต่อไปจะเลื้อยทอดยอดไปตามพื้นดินหรือน้ำ ลำต้นมีสีเขียว มีข้อและ ปล้องข้างในกลวง รากจะเกิดที่ข้อทุกข้อที่สัมผัสกับพื้นดินหรือน้ำ ที่ข้อมักมีตาแตกออกมา ทั้งตาใบและตาดอก
สรุปคือผักบุ้งไทยมีสรรพคุณทางยามากกว่าผักบุ้งชนิดอื่น ขณะที่ผักบุ้งจีนก็มีแคลเซียมและเบต้า-แคโรทีน มากกว่าผักบุ้งชนิดอื่น

วันอังคารที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2561

รู้หรือไม่ ว่าก๋วยเตี๋ยวเรือน้ำตก ในอดีต กับปัจจุบันต่างกันอย่างไร


ก๋วยเตี๋ยว

ในสมัยก่อนพ่อค้าแม่ค้าก๋วยเตี๋ยวเรือใน 1 ลำ มีเพียง 1 คนเท่านั้น ต้องทำทุกอย่างตั้งแต่ พายเรือ ลวกเส้น ปรุงก๋วยเตี๋ยว เสริฟ เก็บตังค์ เก็บชาม และล้างชาม ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ทำโดยไม่ได้ขยับเลยแม้แต่น้อย พอมีคนเรียก ก็จะมาจอดเทียบท่า เอาขาข้างนึงยันบันไดท่าน้ำเป็นฐานไว้ แล้วเริ่มลวกก๋วยเตี๋ยวขาย ส่วนกระบวนการล้างชามนั้นก็แค่แกว่งๆ จุ่มๆ ในคลองนั่นเอง การที่คนขายอยู่ในเรือ คนซื้ออยู่บนฝั่ง การส่งก๋วยเตี๋ยวให้ลูกค้าจึงค่อนข้างลำบาก หากเป็นชามใหญ่ก็จะหนักทำให้ยกลำบาก และเรือที่โคลงเคลงอาจทำให้น้ำซุปหกลวกคนขายได้ ดังนั้นก๋วยเตี๋ยวเรือจึงทำชามเล็กๆ น้ำซุปน้อยๆ แต่เข้มข้นเข้าไว้
แต่เมื่อเวลาผ่านไปวิถีชีวิตก็เปลี่ยนไป จากก๋วยเตี๋ยวที่ต้องพายเรืออยู่ในคลองต้องย้ายมาอยู่ในเมืองแทน ทำให้มีการพัฒนาหลากหลายตามในแต่ละถิ่นแต่ละภาค ก๋วยเตี๋ยวเรือมีรสชาติจัดจ้าน น้ำก๋วยเตี๋ยวสีข้นคล้ายก๋วยเตี๋ยวเนื้อหรือก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋น เพราะใส่เครื่องปรุงที่ต่างจากก๋วยเตี๋ยวชนิดอื่น คือ ซีอิ๊ว เต้าหู้ยี้ และ เครื่องเทศต่างๆ เป็นต้น อีกทั้งยังมี น้ำตก คือ เลือดวัวหรือหมูผสมกับเกลือการรับประทานก๋วยเตี๋ยวเรือ นิยมรับประทานกับกากหมูหรือแคบหมู และ ใบกะเพรา หรือ โหระพาเพื่อดับกลิ่นคาว
จากที่เราได้ทำความจักกับก๋วยเตี๋ยวเรือมาแบ้วนะคะ ใครที่ผ่านมาที่อุบลก็จากสามารถแวะมาลิ้มรสก๋วยเตี๋ยวเรือได้ที่ร้านโฮมก๋วยเตี๋ยวเรือ มากันเยอะๆนะคะ

วันศุกร์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2561

หญ้าหวาน สมุนไพรรสหวานเจี๊ยบ เปี่ยมคุณค่ารักษาสุขภาพ


หญ้าหวาน

ในทุกวันนี้ผู้คนต่างหันมาให้ความสนใจกับสุขภาพมากขึ้น มีหลายคนที่เลือกใช้สมุนไพรในการช่วยรักษาสุขภาพ และหนึ่งในสมุนไพรที่ปัจจุบันนี้กำลังได้รับความนิยมอย่างมากนั่นก็คือ หญ้าหวาน ที่เริ่มมีหลายๆ คนนำมาใช้ในการผสมเครื่องดื่มหรือทำอาหารด้วย เพราะเป็นพืชที่มีรสชาติหวานกว่าน้ำตาลแต่ไม่ทำให้อ้วน จึงถูกนำมาใช้เพิ่มความหวานแทนน้ำตาลกันมากขึ้น แต่ก็เชื่อว่ายังมีหลายคนที่ยังไม่รู้จักหญ้าหวานกันใช่ไหมล่ะ วันนี้เรามาทำความรู้จักกับหญ้าหวานให้ดีมากขึ้นกันเถอะ
หญ้าหวาน ภาษาอังกฤษคือ Stevia มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Stevia rebaudiana Bertoni เป็นพืชชนิดหนึ่งที่ถูกจัดอยู่ในวงศ์ ASTERACEAE เป็นพืชล้มลุกระยะยาว มีลักษณะคล้ายต้นกะเพราหรือต้นแมงลัก ลำต้นกลมและแข็ง มีใบเดี่ยว รูปหอก ขอบใบหยักคล้ายฟันเลื่อย ใบให้สารที่มีรสหวาน และมีช่อดอกสีขาว หญ้าหวานเป็นพืชพื้นเมืองของประเทศบราซิลและทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศปารากวัย ซึ่งมีการค้นพบว่าชาวพื้นเมืองปารากวัย ได้ใช้หญ้าหวานนี้ผสมกับชาเพื่อดื่มมาแล้วมากกว่า 1,500 ปี ต่อมาประเทศญี่ปุ่นก็ได้นำมาใช้อย่างกว้างขวาง สำหรับในประเทศไทยได้เริ่มมีการนำหญ้าหวานมาใช้กันอย่างแพร่หลายเมื่อ 20 ปีที่ผ่านมาเองค่ะ โดยนิยมปลูกในภาคเหนือ เพราะหญ้าหวานขึ้นได้ดีในสภาพอากาศค่อนข้างเย็น

หญ้าหวาน1

สรรพคุณหญ้าหวาน กับประโยชน์ทางยา
หญ้าหวานถึงแม้จะเป็นสมุนไพรที่ไม่ได้ให้พลังงานกับร่างกายเหมือนพืชสมุนไพรชนิดอื่นๆ แต่หญ้าหวานก็มีสรรพคุณทางยาที่สำคัญหลายประการ โดยเฉพาะช่วยลดน้ำตาลในเลือด ช่วยบำรุงตับอ่อน ลดไขมันในเส้นเลือดลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูงและโรคอ้วนได้ แถมยังช่วยสมานแผลทั้งภายนอกและภายใน ทำให้แผลหายไวขึ้นได้ รวมทั้งทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองมากขึ้น ใครที่รู้สึกไม่ค่อยมีแรงละก็ลองดื่มเครื่องดื่มที่ผสมหญ้าหวานก็จะช่วยให้มีกำลังวังชาเพิ่มขึ้นด้วยล่ะ และด้วยความที่หญ้าหวานเป็นพืชที่ไม่มีพลังงานนี่ล่ะ จึงมีการนำไปใช้ในการลดความอ้วนกันอย่างกว้างขวาง ไม่ว่าจะใช้ผสมดื่ม หรือไปผลิตเป็นอาหารเสริม
ทั้งนี้ ประเทศไทยอนุญาตให้ใช้หญ้าหวานเป็นวัตถุดิบสำหรับชาสมุนไพร ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553 ตามประกาศสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เรื่องกำหนดรายชื่อพืชหรือส่วนของพืชที่ใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับชาสมุนไพร ประกาศ ณ วันที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

หญ้าหวาน2

เห็นไหมล่ะคะว่าหญ้าหวานมีประโยชน์และสรรพคุณที่น่าอัศจรรย์มากเพียงใด ใครที่กำลังหนักใจเพราะตัวเองชอบรสหวานแต่ก็กลัวอ้วนละก็ ลองหาหญ้าหวานมาใส่แทนน้ำตาลดูนะ รับรองว่าได้ผลดีแน่นอนจ้า ถ้าไม่รู้ว่าจะไปหาน้ำหญ้าหวานทานกันที่ไหน ลองมาทานที่ร้านเราดูนะคะ มีน้ำสมุนไพรให้เลือกทานมากมาย ยังไม่หมดแค่นี้นะคะ ทางร้านของเรายังมีก๋วยเตี๋ยวเรือรสเด็ดที่เป็นสูตรเฉพาะของทางร้าน รับรองความอร่อย อย่าลืมแวะมาลองชิมกันนะคะ ที่ “โฮมก๋วยเตี๋ยวเรือ” ก๋วยเตี๋ยวร้านเด็ดของเมืองอุบลฯ

วันพุธที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2561

ลอดช่องเป็นขนมไทยแท้โบราณจริงหรือไม่....? มาดูกันค่ะ


ขนมไทย

ลอดช่อง...เป็นขนมไทยแท้โบราณชนิดดั้งเดิม โดยที่ใครๆ พากันคิดว่ามันคือขนม ที่มาจากเกาะสิงคโปร์นู้น แต่แท้จริงแล้วต้นกำเนิดไม่ได้มาจากประเทศสิงคโปร์ แต่เกิดจากภูมิปัญญาของคนไทยเรานี่เอง ที่ได้นำแป้งมันสำปะหลังมาปั้น และนวดให้เหนียว รับประทานกับกะทิสด น้ำเชื่อม และน้ำแข็ง แค่นี้ก็สามารถเพิ่มความสดชื่นให้กับผู้บริโภคได้แล้ว แต่หลายคนคงสงสัยว่าแล้วคำว่า สิงคโปร์ล่ะ มาจากไหน ซึ่งเป็นชื่อที่เรียกกันจนติดปากถึงบริเวณที่ตั้งของร้านลอดช่อง ที่เป็นเจ้าแรก ในการทำ “ลอดช่องสิงคโปร์” นั่นเอง หากย้อนไปเมื่อประมาณ 60 ปีก่อน ร้านลอดช่องบังเอิญไปตั้งอยู่บริเวณหน้าโรงภาพยนต์สิงคโปร์ หรือโรงหนังเฉลิมบุรี บนถนนเยาวราช และเมื่อลูกค้าจะไปทานก็มักจะเรียกว่า “ไปทานลอดช่องหน้าโรงหนังสิงคโปร์” สุดท้ายก็เรียกให้สั้นลงว่า “ลอดช่องสิงคโปร์”

การทำลอดช่องยังมีการผลิตโดยใช้ข้าวเจ้าผสมกับสีสมุนไพรที่ได้จากธรรมชาติในท้องถิ่น ถือว่าปลอดภัยแต่ก็มีปัญหาเนื่องจากขั้นตอนการผลิตที่ไม่สะอาดพอ อีกทั้งประเทศไทยเป็นประเทศเมืองร้อน อาจเป็นสาเหตุทำให้ลอดช่องไม่สามารถเก็บไว้ได้นาน ทำให้เกิดการเน่าเสีย และเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค ดร.น้ำทิพย์ วงษ์ประทีป ได้ร่วมกับ กลุ่มผู้ผลิตลอดช่องชุมชน ชาวหนองกระดิ่ง ตำบลหนองกระดิ่ง อำเภอคีรีมาศ จังหวัดสุโขทัย พัฒนาคุณภาพลอดช่องให้มีความสะอาดปลอดภัย สร้างเอกลักษณ์และมีคุณค่าทางโภชนาการจากสมุนไพรให้แตกต่างจากลอดช่องทั่วไป

ลอดช่องสมุนไพร ที่มีสีสันสวยงามตามสีสมุนไพร ต้องใช้วัตถุดิบที่เป็นข้าวเจ้าท่อนปลอดสารพิษ น้ำสมุนไพรที่ไม่มีการใช้สารเคมี และอุปกรณ์การผลิตที่สะอาด เป็นปัจจัยหลักที่สามารถดึงดูดใจผู้บริโภค อีกทั้งยังมีสรรพคุณทางยาช่วยบำรุงหัวใจทำให้ชุ่มชื่น บำรุงโลหิต แก้ท้องร่วง-ท้องเสีย และบำรุงธาตุได้อีกด้วย

วันเสาร์ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2561

โฮมก๋วยเตี๋ยวเรือ ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือที่ราคาแสนถูก บรรยากาศแสนดี

ก๋วยเตี๋ยวเรือ

โฮมก๋วยเตี๋ยวเรือ คือ ร้านก๋วยเตี๋ยวเราที่มีเมนูอาหารคุณภาพสุง รวมถึงมีบรรยากาศที่เพอร์เฟค และ ดีไซน์การตกแต่งร้านที่ไม่เหมือนใคร และมีพนักงานคอยให้บริการ ให้ความสะดวกสบายแก่ลูกค้าที่ผู้มาเยือน

ปัจจุบัน ธุรกิจก๋วยเตี๋ยวเรือ ในจังหวัดอุบลราชธานีมีการเติบโตขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งคนไทย ก็มีพฤติกรรมการรับประทานอาหารนอกบ้านมากขึ้น ร้านของเราจึงคำนึงถึงสิ่งที่สำคัญมาเป็นอันดับหนึ่งคือ การคัดสรรวัตถุดิบสำหรับปรุงอาหาร ที่มีคุณภาพดีไร้ที่ติ โดยต้องมาพร้อมกับความ สดใหม่ สะอาด และปลอดภัยแก่ผู้บริโภค อีกทั้ง ต้องพิถีพิถันในการปรุงอาหารโดยเชฟผู้เชี่ยวชาญ เพื่อรสชาติที่แสนเพอร์เฟค และสร้างความประทับใจให้แก่ผู้บริโภค รวมถึง การจัดจานให้ดูน่ารับประทาน ก็เป็นสิ่งที่ควรให้สำคัญเป็นอย่างมาก นอกจากนี้พนักงานทุกคน ต้องสามารถตอบคำถามของแขกได้ในทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น เรื่องเมนูอาหาร ไปจนถึงเครื่องดื่ม รวมถึง การแนะนำเมนูอาหาร ให้ตรงกับความต้องการของแขกได้อย่างดีอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นหน้าที่ที่สำคัญ และไม่สามารถละเลยได้โดยเด็ดขาด


ด้วยเหตุนี้ การบริการที่แสนเพอร์เฟค จึงเป็นสิ่งการันตีความสมบูรณ์แบบได้อย่างไร้ที่ติ สำหรับใครที่อยากสร้างประสบการณ์ใหม่ ที่มาพร้อมกับความประทับใจที่แสนพิเศษ “ร้านโฮมก๋วยเตี๋ยวเรือ” เป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ได้อย่างตรงใจ รับรองว่า ได้สัมผัสรสชาติอาหารที่แสนอร่อย และ การบริการที่เพอร์เฟคอย่างแน่นอน

ประวัติลอดช่องวัดเจษฯ แฟนพันธุ์แท้เท่านั้นที่รู้

ลอดช่องวัดเจษฯ เป็นชื่อที่เรียกติดปากกันไปแล้ว ถ้าจะกินลอดช่องก็ต้องพ่วงคำว่าวัดเจษฯ เข้าไปด้วย ถือว่าเป็นลอดช่องที่ทุกคนกิน ของมันต้องมีอ...