
ทุกท่านทราบไหมคะว่า...ปัญหานี้ ไม่ได้เกิดขึ้นกับประเทศไทย เท่านั้น ลาว เวียดนาม และ บางส่วนของประเทศจีน ก็ประสบปัญหาเดียวกัน ประเทศศรีลังกา ถึงกับต้องจัดตั้งองค์กร " ไม่งอก เพื่อชาติ " หรือ FREE BEAN SPROUT มีสมาชิกทั่วประเทศเกือบยี่สิบคนรวมทั้งคุณมารร้ายด้วย จุดประสงค์เพื่อต่อต้านการใส่ถั่วงอกในชามก๋วยเตี๋ยว ความจริงชาวศรีลังกา
ก๋วยเตี๋ยว ภาษาแต้จิ๋ว ออกเสียง ว่า " กุ้ย ติ๋ว "
ก๋วยเตี๋ยวในประเทศไทยมีมาเมื่อประมาณ สมัยสมเด็จพระนารายณ์ฯ ซึ่งเป็นช่วงที่ไทยมีการติดต่อกับชายต่างชาติมากมาย และชาวจีนก็ได้นำเอาก๋วยเตี๋ยวเข้ามากินกันในเรือ โดยต้มในน้ำซุป มีการใส่หมู ใส่ผักและเครื่องปรุงเพื่อความอร่อย แต่สำหรับคนไทยแล้วถือว่าเป็นสิ่งที่แปลกใหม่ในยุคนั้น และได้นำมาประกอบเป็นอาหารอื่นๆ บริโภคกันจนมีความเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดี และเริ่มมีการทำเส้นก๋วยเตี๋ยวในประเทศไทย

"อยากให้พี่น้องกินก๋วยเตี๋ยวให้ทั่วกัน เพราะก๋วยเตี๋ยว มีประโยชน์ต่อร่างกาย มีรสเปรี้ยว เค็ม หวานพร้อม ทำเองได้ในประเทศไทย หาได้สะดวกและอร่อยด้วย หากพี่น้องชาวไทยกินก๋วยเตี๋ยวคนละหนึ่งชามทุกวัน วันหนึ่งจะมีคนกินก๋วยเตี๋ยวสิบแปดล้านชาม ตกลงวันหนึ่งค่าก๋วยเตี๋ยวของชาติไทยหนึ่งวันเท่ากับเก้าสิบล้านสตางค์ เท่ากับเก้าแสนบาท เป็นจำนวนเงินหมุนเวียนมากพอใช้ เงินเก้าแสนบาทนั้น ก็จะไหลไปสู่ชาวไร่ ชาวนา ชาวทะเลทั่วกัน ไม่ตกไปอยู่ในมือใครคนหนึ่งคนใดเพียงคนเดียว และเงินหนึ่งบาทก็มีราคาหนึ่งบาท ซื้อก๋วยเตี๋ยวได้เสมอ ไม่ใช่ซื้ออะไรก็ไม่ได้เหมือนอย่างทุกวันนี้ซึ่งเท่ากับไม่มีประโยขน์เต็มที่ในค่าของเงิน.."
โดยทางการได้ทำหนังสือเวียนแจกจ่ายไปทุกจังหวัด ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ และครูใหญ่ทุกโรงเรียน ต้องขายก๋วยเตี๋ยวคนละหนึ่งหาบ และให้กรมประชาสงเคราะห์จัดทำคู่มือการทำ ก๋วยเตี๋ยวแจกจ่าย สมัยนั้น ข้าราชการที่มีหน้ามีตาจึงมีหน้าที่ขายก๋วยเตี๋ยวกันเป็นการใหญ่ และได้มีการแต่งเพลง "ก๋วยเตี๋ยว" ขึ้นเพื่อใช้ในการเชิญชวนให้คนไทยหันมาขาย และรับประทานก๋วยเตี๋ยวกัน เพราะเหตุนี้ก๋วยเตี๋ยวจึงใส่ถั่วงอกกันมาถึงปัจจุบัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น